พรีไบโอติก

กินกิมจิเพิ่ม Probiotic ได้! Probiotic จากกิมจิ

กินกิมจิเพิ่ม Probiotic ได้! Probiotic จากกิมจิ กิมจิ (Kimchi) เป็นเครื่องเคียง หรือผักดองสไตล์เกาหลียอดนิยม ที่มักนำมารับประทานคู่กับเนื้อย่าง หรืออาจนำมาถูกปรุงในเมนูต่างๆ เช่น ข้าวผัดกิมจิ ซุปกิมจิ เป็นต้น ซึ่งวัตถุดิบที่ใช้ทำมาจากผักต่างๆ แน่นอนว่าสิ่งที่ถูกทำมาจากผักนั้นล้วนให้ประโยชน์แก่ร่างกายของเราหลากหลายอย่าง    แต่รู้หรือไม่!? ในกิมจิมี โพรไบโอติกส์ (Probiotics) หรือเชื้อจุลินทรีย์มีประโยชน์ที่อาศัยอยู่ภายในลำไส้ของมนุษย์ หากโพรไบโอติกส์มีปริมาณมากขึ้นและอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมก็อาจช่วยลดปัญหาสุขภาพและเสริมร่างกายให้ทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น แต่นอกจากโพรไบโอติกส์ กิมจิก็ยังมีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ ด้วย วันนี้ Zen เลยจะพาทุกคนมารู้ถึงคุณประโยชน์ของกิมจิกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง ประโยชน์ของกิมจิ อุดมไปด้วย โพรไบโอติก ( Probiotics ) และแลคโตบาซิลลัส ( Lactobacillus ) ดีต่อระบบทางเดินอาหาร ช่วยในการขับถ่ายดีขึ้น สามารถลดระดับไขมัน LDL และ Cholesterol ได้ มีวิตามินเอ ช่วยเรื่องการมองเห็น วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี และ Selenium กินกิมจิเพิ่ม Probiotic ได้! Probiotic จากกิมจิ

พรีไบโอติก (Prebiotics) กับโพรไบโอติก (Probiotics) แตกต่างกันอย่างไร

พรีไบโอติก (Prebiotics) กับโพรไบโอติก (Probiotics) แตกต่างกันอย่างไร พรีไบโอติก คืออะไร พรีไบโอติก (Prebiotics) คือ พรีไบโอติกช่วยให้แบคทีเรียชนิดดีในลำไส้เจริญเติบโต เมื่อลำไส้มีปริมาณของแบคทีเรียชนิดดีมากขึ้นจะทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้นด้วย โพรไบโอติก คืออะไร โพรไบโอติก (Probiotics) เป็นจุลินทรีย์ที่มีชีวิตและเป็นชนิดดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยในการทำงานของระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย ช่วยในการย่อยพรีไบโอติกเพื่อกระตุ้นการทำงานของแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ และช่วยให้แบคทีเรียดีในลำไส้เจริญเติบโต พรีไบโอติก กับ โพรไบโอติก ต่างกันอย่างไร ทั้งพรีไบโอติกและโพรไบโอติกนั้นเป็นสิ่งที่ทำงานสัมพันธ์กัน และให้ประโยชน์ต่อร่างกายในเรื่องของระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายเหมือนกัน แต่จะมีความแตกต่างกันตรงที่พรีไบโอติกนั้นเป็นสารอาหารที่ได้จากการรับประทานอาหารและอาหารเสริม  ในขณะที่โพรไบโอติกจะเป็นจุลินทรีย์ที่มีชีวิตและมีประโยชน์ต่อร่างกายซึ่งสามารถพบได้จากการรับประทานอาหารและอาหารเสริมเช่นเดียวกับโพรไบโอติก นอกจากนี้พรีไบโอติกยังไม่สามารถถูกย่อยที่ลำไส้เล็กได้ จำเป็นต้องอาศัยโพรไบโอติกหรือจุลินทรีย์ที่ดีมาทำการย่อยเพื่อเป็นอาหารให้แบคทีเรียที่ดีในลำไส้ ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ร่างกายไม่ควรขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ว่าจะเป็นพรีไบโอติกหรือโพรไบโอติก เพราะทั้งสองสิ่งนี้ทำงานเกื้อกูลซึ่งกันและกัน และให้ประโยชน์ต่อร่างกายเช่นเดียวกัน   อยากทดลองสินค้า หรือต้องการพัฒนาสูตรเพื่อสร้างแบรนด์อาหารเสริม สามารถทักมาคุยกับแอดมินได้เลย โรงงานอาหารเสริม เซน ไบโอเทค ไม่หยุดที่จะพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และความเชื่อมั่น ให้กับลูกค้าที่ได้มอบความไว้วางใจให้กับเรา เซน ไบโอเทค จะไม่หยุดพัฒนา พร้อมกับรังสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ทุกท่าน ติดตามนวัตกรรมใหม่ๆ ต่อได้ที่นี่

ใช้ชีวิตอย่างไร? ให้ปลอดภัยจากจุลินทรีย์ตัวร้าย!!

ใช้ชีวิตอย่างไร? ให้ปลอดภัยจากจุลินทรีย์ตัวร้าย!! สาระความรู้ดีดีส่งตรงจาก ดร.เอก ผู้ที่จะบอกต่อความลับการใช้ชีวิตให้ปลอดภัยจากจุลินทรีย์ตัวร้าย จุลินทรีย์ตัวร้ายมีปัจจัยที่ทำให้เกิดขึ้นมาในร่างกายของเรา นั่นก็คือ “พฤติกรรมการใช้ชีวิต” ของเรานั่นเอง ซึ่งโดยปกติแล้วจุลินทรีย์ชนิดไม่ดีนั้นอาจจะมีสัดส่วนถึง 15-20% ของจุลินทรีย์ทั้งหมดที่อยู่ในร่างกาย จุลินทรีย์ชนิดไม่ดีก่อให้เกิดความเสี่ยงอย่างอะไรบ้าง?  อย่างแรกเลยทำให้  “ร่างกายอาจเกิดอาการเจ็บป่วย” เพราะว่าจุลินทรีย์ชนิดไม่ดีจะมีส่วนหนึ่งที่ถูกเรียกว่า “จุลินทรีย์ก่อโรค” โดยจุลินทรีย์เหล่านี้ถือเป็นต้นเหตุของโรคร้ายชนิดต่าง ๆ โดยสามารถเพิ่มจำนวนขึ้นได้เรื่อย ๆ หากปล่อยให้มีการสะสมเป็นระยะเวลานานก็จะส่งผลให้สภาพแวดล้อมภายในลำไส้มีความเป็นด่างมากขึ้น จนทำให้สัดส่วนของโปรไบโอติกหรือจุลินทรีย์ดีในลำไส้ลดลง ผลที่ตามมาก็คือ “ภูมิต้านทานที่อ่อนแอ” และทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้ง่าย  มีงานวิจัยที่ชี้ว่าจุลินทรีย์ชนิดไม่ดีจะผลิตสารพิษชนิดต่าง ๆ ออกมา ซึ่งสารพิษเหล่านี้จะถูกส่งไปกำจัดที่ตับทำให้ตับต้องทำงานหนักขึ้น แต่ถ้าหากสารพิษมีปริมาณสูงมากจนตับไม่สามารถกำจัดได้หมด สารพิษเหล่านี้ก็จะตกค้างสะสมอยู่ภายในร่างกาย เมื่อสะสมนานวันเข้าจะกลายเป็นอนุมูลอิสระและเสี่ยงที่จะเกิดเซลล์มะเร็งได้   รู้กันอย่างนี้แล้วอย่าลืมหาตัวช่วยดีดีมาปรับสมดุลให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทานที่ดีกันอยู่เสมอนะครับ โรงงานอาหารเสริม เซน ไบโอเทค ไม่หยุดที่จะพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และความเชื่อมั่น ให้กับลูกค้าที่ได้มอบความไว้วางใจให้กับเรา เซน ไบโอเทค จะไม่หยุดพัฒนา พร้อมกับรังสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ทุกท่าน ติดตามนวัตกรรมใหม่ๆ ต่อได้ที่นี่

ใครบ้าง? ต้องทาน Probiotics&Prebiotics

ใครบ้าง? ต้องทาน Probiotics&Prebiotics เราจำเป็นต้องทาน Probiotics&Prebiotics ไหม? คำถามนี้น่าจะเป็นคำถามที่ใครหลาย ๆ คนต้องการคำตอบ โดยปกติแล้วโปรไบติกส์หรือจุลินทรีย์ดี จะอยู่ในร่างกายเรามาตั้งแต่เกิด แต่จะลดลงและเปลี่ยนแปลงไปตามอายุ การใช้การใช้ยาปฎิชีวนะ อาหาร ความเครียด หรือการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ซึ่งไลฟ์สไตล์ในชีวิตปัจจุบัน ทำให้เราหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ได้ยาก จนอาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับลำไส้และระบบภูมิคุ้มกันตามมา อีกทั้งมลพิษและปัญหาสุขภาพอาจส่งผลต่อความสมดุลของเชื้อตัวจิ๋วได้เช่นกัน ดังนั้น หากต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็อาจเกิดอาการเจ็บป่วยได้เช่นกัน   ดังนั้นการกิน โปรไบโอติกส์ (Probiotics) และ พรีไบโอติกส์ (Prebiotics) จึงเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพ เช่นเดียวกับการที่เรารับประทานอาหารที่ร่างกายต้องการ ทั้งคาร์โบไฮเดต โปรตีน ไขมัน วิตามิน เกลือแร่ เพื่อให้ร่างกายได้นำไปใช้เป็นแหล่งพลังงานและซ่อมแซมส่วนส่วนสึกหรอในแต่ละวัน การกินโปรไบโอติกส์ก็เช่นกัน เราทานโปรไบโอติกส์เพื่อเติมเต็มส่วนที่สูญเสียไปจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเรานั่นเอง  ใครบ้าง? ต้องทาน Probiotics&Prebiotics ผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย สิว ผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก ผู้ที่มีภาวะเครียด ผู้ที่มีภาวะอุดตันของลำไส้ หรือขับถ่ายยาก ผู้ที่มีอาการท้องเสีย   โรงงานอาหารเสริม เซน ใครบ้าง? ต้องทาน Probiotics&Prebiotics

Probiotics และ Prebiotics คืออะไร? มีความสำคัญต่อร่างกายอย่างไร?

Probiotics และ Prebiotics คืออะไร? มีความสำคัญต่อร่างกายอย่างไร? เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับ โพรไบติกส์(Probiotics) และพรีไบโอติกส์(Prebiotics) กันมาบ้าง แต่ยังมีหลาย ๆ คนทราบว่าการได้รับสองตัวนี้จะมาจากการรับประทานเครื่องดื่มนมเปรี้ยว โยเกิร์ตเท่านั้น เพื่อให้ได้จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อลำไส้ แต่ทราบหรือไม่ว่า จริง ๆ แล้วยังมีอาหารแหล่งอื่น ๆ ที่อุดมไปด้วยโพรไบโอติกส์และพรีไบโอติกส์ อีกทั้งยังมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าที่คิด Probiotic กับ Prebiotic แค่ชื่อคล้าย…แต่ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน ถ้าพูดถึง Probiotic สำหรับบางคนก็อาจจะพอเคยได้ยินกันมาบ้าง แต่เมื่อเจอคำว่า “Prebiotic” หลายคนก็อาจสับสนและเข้าใจว่าอาจเป็นชื่อเรียกของสิ่งๆ เดียวกัน ความหมายเหมือนกัน จริงๆ แล้ว Probiotic เป็นชื่อเรียกของจุลินทรีย์ขนาดเล็กที่มีส่วนช่วยในการผลิตสารต่อต้านหรือกำจัดเชื้อจุลินทรีย์ ซึ่งพบได้ในร่างกายของมนุษย์เราอยู่แล้ว แต่ด้วยปัจจัยบางอย่างก็อาจส่งผลให้จุลินทรีย์ชนิดนี้ลดลง ส่งผลต่อการทำงานของระบบย่อยอาหารได้ ในบางคนจึงต้องเสริมด้วยการทานอาหารกลุ่มที่มีจุลินทรีย์ชนิดนี้ แหล่งอาหารที่มี Probiotics : เกิดจากอาหารที่ผ่านกระบวนการหมักบางชนิด เช่น นมเปรี้ยว โยเกิร์ต กิมจิ มิโซะ ส่วน Prebiotic นั้น Probiotics และ Prebiotics คืออะไร? มีความสำคัญต่อร่างกายอย่างไร?

สารสกัดจาก Fructooligosaccharide 95%

คุณสมบัติของสารสกัดจาก Fructooligosaccharide 95% ระบบขับถ่าย Fructooligosaccharide 95% : ช่วยทำให้อิ่ม ขับถ่ายระบายของเสียออกจากร่างกายได้สะดวก และ ช่วยในการลดกระชับสัดส่วนให้ดูสมบูรณ์ยิ่งขึ้น FOS จัดเป็นใยอาหารประเภทพรีไบโอติกอีกกลุ่มหนึ่ง เมื่อถูกย่อยด้วยแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่แล้วจะให้สารบิวไทริคในปริมาณสูงเป็นประโยชน์ต่อการลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งในทางเดินอาหารได้ดี FOS ช่วยกระตุ้นการเจริญและการทำงานของบิฟิโดแบคทีเรีย (Bifidobacteria) และแลคโตบาซิลลิ (Lactobacilli)   หากเจ้าของแบรนด์ นักลงทุน หรือ นักธุรกิจที่สนใจสร้างแบรนด์อาหารเสริม ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมในการผลิตอาหารเสริม  สามารถติดต่อสอบถามการใช้สารสกัดจาก Fructooligosaccharide 95% ในสูตรอาหารเสริม พร้อมทั้งรับข้อเสนอราคาสุดพิเศษ คลิก ติดต่อเจ้าหน้าที่ เลยค่ะ