อะฟลาท็อกซิน

นอนยังไงให้ได้สุขภาพ และดีต่อสุขภาพสูงสุด

นอนยังไงให้ได้สุขภาพ และดีต่อสุขภาพสูงสุด ควรนอนเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอ และได้ประสิทธิภาพสูงสุด โดยปกติเราจะมีนอนพักผ่อนตามตารางเวลาชีวิต แต่จะต้องนอนอย่างไรจึงจะดีต่อสุขภาพมากที่สุด และตื่นมาด้วยความสดชื่นที่สุด วันนี้ Zenbiotech จะนำเกร็ดความรู้มาให้ทุกคนได้ทราบกันค่ะ เทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพการนอน ให้มีคุณภาพ ชั่วโมงการนอน ควรนอนให้ได้วันละ 7-8 ชั่วโมง ซึ่งแต่ล่ะช่วงอายุจะมีเวลานอนที่แตกต่างกัน เช่น วัยกลางคนหรือผู้ใหญ่ทั่วไป ควรนอนอยู่ที่ 7-8 ชั่วโมง ส่วนเด็กเล็กควรนอนวันละ 11-13 ชั่วโมง คุณภาพในการหลับ คือ ครบวงจรทุกระยะการหลับ ทั้งหลับตื้น หลับลึกและหลับฝัน ให้ครบทุกระยะเพราะมีความสัมพันธ์กัน วงจรการหลับ 3 ระยะ หลับตื้น เป็นระยะแรกที่มีการหลับตื้นอย่างแท้จริง แต่ยังไม่มีการฝัน หลับลึก ร่างกายจะเข้าสู่โหมดพักผ่อนเมื่อเข้าสู่ระยะหลับลึกเป็นช่วงหลับสนิทที่สุดของการนอนใช้เวลา 30 – 60 นาที หลับฝัน อีกระยะหนึ่งที่สำคัญคือ ช่วงหลับฝันร่างกายจะได้พักผ่อน แต่สมองจะยังตื่นตัวอยู่ นอกจากนี้การหลับฝันยังช่วยจัดระบบความจำในเรื่องของทักษะต่าง ๆ   อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเหล่านี้ยังขึ้นอยู่กับช่วงวัยอายุอีกด้วย เนื่องจากการทำงานของสมองแต่ละช่วงวัยไม่เหมือนกัน และเพื่อการพักผ่อนอย่างเต็มที่ Zenbiotech นอนยังไงให้ได้สุขภาพ และดีต่อสุขภาพสูงสุด

รู้หรือไม่ถั่วลิสงมีสารพิษที่ชื่อว่า “อะฟลาท็อกซิน”

รู้หรือไม่ถั่วลิสงมีสารพิษที่ชื่อว่า “อะฟลาท็อกซิน” ปัจจุบันอันตรายจากการกินอาหารของคนเรามีมากขึ้นกว่าเดิม แม้แต่วัตถุดิบจากธรรมชาติก็ไม่ได้มีความปลอดภัยเสมอไป หากการเก็บรักษาวัตถุดิบเหล่านี้ไม่เหมาะสม อาจจะก่อให้เกิดสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้ สารพิษที่ว่า คือ “อะฟลาท็อกซิน” องค์การอนามัยโลกกำหนดให้สารอะฟลาท็อกซินเป็นสารก่อมะเร็งที่ร้ายแรงมากชนิดหนึ่ง โดยปริมาณเพียง 1 ไมโครกรัมสามารถทำให้เกิดการกลายพันธุ์ในแบคทีเรียและทำให้เกิดมะเร็งในสัตว์ทดลองได้ หากได้รับอย่างต่อเนื่อง มาทำความรู้จักกับ “อะฟลาท็อกซิน” กัน อะฟลาท็อกซิน (Aflatoxin) ถูกพบครั้งแรกในปี พ.ศ. 2503 ถือว่าเกี่ยวข้องกับสุขภาพของมนุษย์โดยตรง เพราะมีพิษรุนแรง และถูกจัดเป็นสารก่อมะเร็งโดย International Association Research Cancer (IARC) เป็นสารพิษจากเชื้อราที่เกิดในสภาวะที่มีความชื้นสูง ซึ่งประเทศไทยมีสภาวะที่เหมาะสมแก่การเกิดสารพิษอะฟลาท็อกซินพอดี  สิ่งที่น่ากลัวก็คือ สารพิษนี้สามารถทนความร้อนได้ถึง 268 องศาเซลเซียส ดังนั้นการหุงต้มธรรมดาจึงไม่สามารถทำลายสารพิษได้ การได้รับในปริมาณมากหรือน้อย และสะสมไปเรื่อย ๆ จะทำให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับ และทุกครั้งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกตรวจ ก็ยังคงพบถั่วลิสงที่มีอะฟลาท็อกซินเกินกำหนดอยู่มาก เมื่อร่างกายได้รับสารอะฟลาท็อกซินจะทำให้เกิดอาการชัก หายใจลำบาก ตับถูกทำลาย หัวใจและสมองบวม นอกจากนี้สารอะฟลาท็อกซินชนิด B1 ซึ่งพบได้ตามธรรมชาติ และมีความเป็นพิษสูงสุดจากทั้งหมด 4 ชนิด (B1, B2, รู้หรือไม่ถั่วลิสงมีสารพิษที่ชื่อว่า “อะฟลาท็อกซิน”