zenbiotech.th

สารให้ความหวานอันตรายจริงไหม?

สารให้ความหวานอันตรายจริงไหม? ปัจจุบันเทรนด์การรักสุขภาพกำลังมาแรง ซึ่งปัญหาหลักคือเรื่องของความหวานหรือน้ำตาล ทำให้มีการมุ่งเน้นและค้นหาสารทดแทนความหวานแทนน้ำตาล เช่น ซูคลาโรส  แต่ปัจจุบันมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบ สุขภาพในระยะยาว ซึ่งต้องยอมรับว่ายังไม่มีผลทางวิทยาศาสตร์รับรองชัดเจน วันนี้ เซน ไบโอเทค โรงงานรับผลิตอาหารเสริม ในฐานะผู้นำบนธุรกิจนี้ ไม่หยุดนิ่งที่จะค้นคว้าและหาสารทดแทนความหวานต่างๆ เพิ่มเติมเพื่อใช้ในธุรกิจอาหารเสริม จึงได้รวบรวมข้อมูลสารให้ความหวานที่เป็นเคล็ดลับของธุรกิจ มาแบ่งปั่นเพื่อให้ เราในฐานะเจ้าของแบรนด์ได้รับทราบข้อมูล และนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ของเราได้อย่างเหมาะสม มีอะไรบ้าง กี่ประเภท มาดูกัน 3 สารทดแทนความหวานยอดนิยม หล่อฮั้งก้วย : เป็นสารให้ความหวาน ที่ให้ความหวานกว่าน้ำตาลถึง 150-300 เท่า โดยเป็นสารให้ความหวานจากธรรมชาติปลอดภัยแน่นอน ซูคลาโรส : สารให้ความหวานที่ไม่มีพลังงาน มีความหวานมากกว่าน้ำตาลทรายขาวถึง 600 เท่า มีข้อดีคือเป็นสารให้ความหวานที่ปลอดภัย ไม่มีสารสะสมในร่างกาย ไม่มีผลต่อน้ำตาลในเลือด ไม่ทำให้ฟันผุ และละลายน้ำได้ดี หญ้าหวาน : เป็นสารให้ความหวานจากธรรมชาติและเป็นสารให้ความหวานที่ดีที่สุด ให้ความหวานหวานมากกว่าน้ำตาลทรายถึง 250-300 เท่า ให้มีพลังงานน้อยมาก ข้อดีของการใช้สารให้ความหวาน 1.ไม่เพิ่มความอยากอาหาร ได้พลังงานที่น้อย แคลอรี่ต่ำ เมื่อเปรียบเทียบกับอาหารอื่น สารให้ความหวานอันตรายจริงไหม?

สูตรอาหารเสริมมัดใจคุณแม่หลังคลอด และคุณแม่สูงวัย

สูตรอาหารเสริมมัดใจคุณแม่หลังคลอด และคุณแม่สูงวัย ผู้สูงอายุและคุณแม่หลังคลอดหลายคนมักมีปัญหาร่างกายอ่อนแอและเจ็บป่วยได้ง่าย ที่สืบเนื่องมาจากอาการหลังคลอดและอายุที่สูงขึ้น ในปัจจุบันมีอาหารเสริมและวิตามินหลายตัว แต่ละตัวจะมีจุดเด่นในการช่วยบำรุงร่างกายแตกต่างกัน  วันนี้ Zen biotech จึงจะมาแนะนำอาหารเสริมที่คุณแม่หลังคลอด (ที่ไม่ได้ให้นมบุตรแล้ว) และคุณแม่สูงวัยควรทานเสริม และประโยชน์ของอาหารเสริมของแต่ละตัวเพื่อทุกคนจะได้เลือกอย่างถูกต้อง สารอาหารที่เหมาะกับคุณแม่หลังคลอด ธาตุเหล็ก : เนื่องจากตอนคลอดไม่ว่าจะเป็นคลอดธรรมชาติหรือผ่าตัดก็ล้วนมีการเสียเลือดจำนวนหนึ่ง ซึ่งผู้หญิงบางคนอาจตกเลือดหรือมีภาวะซีด ดังนั้น คุณแม่ควรรับประทานธาตุเหล็ก และเลือกรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น เนื้อแดง ตับ ผักใบเขียวจัด เพื่อให้ร่างกายผลิตเม็ดเลือดคืนได้อย่างเต็มที่ วิตามินรวม : เนื่องจากวิตามินรวมที่คุณแม่ควรทานหลังคลอดที่มีวิตามินรวมหลายชนิดก็จะช่วยให้คุณแม่หลังคลอดสามารถบำรุงร่างกายด้วยวิตามินและสารอาหารได้อย่างเหมาะสม วิตามินบี : วิตามิน B ถือว่าจำเป็นมากเลยทีเดียว ซึ่งนอกจากกรดโฟลิกซึ่งเป็นวิตามินบีตัวหนึ่ง วิตามินบียังมีอีกหลายชนิด เช่น วิตามินบี 1, 2, 6 และ 12 ซึ่งแต่ละตัวมีความสำคัญทั้งเป็นโคเอนไซม์ บำรุงระบบภูมิคุ้มกัน และยังช่วยเพิ่มให้น้ำนมแม่เป็นต้น แคลเซียม : ในระหว่างตั้งครรภ์นั้นแคลเซียมในร่างกายของคุณแม่จะถูกดึงไปใช้บำรุงทารกที่อยู่ในครรภ์จึงทำให้แคลเซียมคุณแม่ไม่เพียงพอ คุณแม่ จึงควรจะบำรุงร่างกายด้วยแคลเซียมชดเชย เพื่อให้สามารถดูแลกระดูกและฟันของคุณแม่ได้อย่างเหมาะสม ในช่วงหลังคลอด สารอาหารที่ไม่เหมาะกับการให้นมบุตร 1.แอลกอฮอล์ สูตรอาหารเสริมมัดใจคุณแม่หลังคลอด และคุณแม่สูงวัย

นอนยังไงให้ได้สุขภาพ และดีต่อสุขภาพสูงสุด

นอนยังไงให้ได้สุขภาพ และดีต่อสุขภาพสูงสุด ควรนอนเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอ และได้ประสิทธิภาพสูงสุด โดยปกติเราจะมีนอนพักผ่อนตามตารางเวลาชีวิต แต่จะต้องนอนอย่างไรจึงจะดีต่อสุขภาพมากที่สุด และตื่นมาด้วยความสดชื่นที่สุด วันนี้ Zenbiotech จะนำเกร็ดความรู้มาให้ทุกคนได้ทราบกันค่ะ เทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพการนอน ให้มีคุณภาพ ชั่วโมงการนอน ควรนอนให้ได้วันละ 7-8 ชั่วโมง ซึ่งแต่ล่ะช่วงอายุจะมีเวลานอนที่แตกต่างกัน เช่น วัยกลางคนหรือผู้ใหญ่ทั่วไป ควรนอนอยู่ที่ 7-8 ชั่วโมง ส่วนเด็กเล็กควรนอนวันละ 11-13 ชั่วโมง คุณภาพในการหลับ คือ ครบวงจรทุกระยะการหลับ ทั้งหลับตื้น หลับลึกและหลับฝัน ให้ครบทุกระยะเพราะมีความสัมพันธ์กัน วงจรการหลับ 3 ระยะ หลับตื้น เป็นระยะแรกที่มีการหลับตื้นอย่างแท้จริง แต่ยังไม่มีการฝัน หลับลึก ร่างกายจะเข้าสู่โหมดพักผ่อนเมื่อเข้าสู่ระยะหลับลึกเป็นช่วงหลับสนิทที่สุดของการนอนใช้เวลา 30 – 60 นาที หลับฝัน อีกระยะหนึ่งที่สำคัญคือ ช่วงหลับฝันร่างกายจะได้พักผ่อน แต่สมองจะยังตื่นตัวอยู่ นอกจากนี้การหลับฝันยังช่วยจัดระบบความจำในเรื่องของทักษะต่าง ๆ   อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเหล่านี้ยังขึ้นอยู่กับช่วงวัยอายุอีกด้วย เนื่องจากการทำงานของสมองแต่ละช่วงวัยไม่เหมือนกัน และเพื่อการพักผ่อนอย่างเต็มที่ Zenbiotech นอนยังไงให้ได้สุขภาพ และดีต่อสุขภาพสูงสุด

รู้หรือไม่ถั่วลิสงมีสารพิษที่ชื่อว่า “อะฟลาท็อกซิน”

รู้หรือไม่ถั่วลิสงมีสารพิษที่ชื่อว่า “อะฟลาท็อกซิน” ปัจจุบันอันตรายจากการกินอาหารของคนเรามีมากขึ้นกว่าเดิม แม้แต่วัตถุดิบจากธรรมชาติก็ไม่ได้มีความปลอดภัยเสมอไป หากการเก็บรักษาวัตถุดิบเหล่านี้ไม่เหมาะสม อาจจะก่อให้เกิดสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้ สารพิษที่ว่า คือ “อะฟลาท็อกซิน” องค์การอนามัยโลกกำหนดให้สารอะฟลาท็อกซินเป็นสารก่อมะเร็งที่ร้ายแรงมากชนิดหนึ่ง โดยปริมาณเพียง 1 ไมโครกรัมสามารถทำให้เกิดการกลายพันธุ์ในแบคทีเรียและทำให้เกิดมะเร็งในสัตว์ทดลองได้ หากได้รับอย่างต่อเนื่อง มาทำความรู้จักกับ “อะฟลาท็อกซิน” กัน อะฟลาท็อกซิน (Aflatoxin) ถูกพบครั้งแรกในปี พ.ศ. 2503 ถือว่าเกี่ยวข้องกับสุขภาพของมนุษย์โดยตรง เพราะมีพิษรุนแรง และถูกจัดเป็นสารก่อมะเร็งโดย International Association Research Cancer (IARC) เป็นสารพิษจากเชื้อราที่เกิดในสภาวะที่มีความชื้นสูง ซึ่งประเทศไทยมีสภาวะที่เหมาะสมแก่การเกิดสารพิษอะฟลาท็อกซินพอดี  สิ่งที่น่ากลัวก็คือ สารพิษนี้สามารถทนความร้อนได้ถึง 268 องศาเซลเซียส ดังนั้นการหุงต้มธรรมดาจึงไม่สามารถทำลายสารพิษได้ การได้รับในปริมาณมากหรือน้อย และสะสมไปเรื่อย ๆ จะทำให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับ และทุกครั้งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกตรวจ ก็ยังคงพบถั่วลิสงที่มีอะฟลาท็อกซินเกินกำหนดอยู่มาก เมื่อร่างกายได้รับสารอะฟลาท็อกซินจะทำให้เกิดอาการชัก หายใจลำบาก ตับถูกทำลาย หัวใจและสมองบวม นอกจากนี้สารอะฟลาท็อกซินชนิด B1 ซึ่งพบได้ตามธรรมชาติ และมีความเป็นพิษสูงสุดจากทั้งหมด 4 ชนิด (B1, B2, รู้หรือไม่ถั่วลิสงมีสารพิษที่ชื่อว่า “อะฟลาท็อกซิน”

สูตรสร้างแบรนด์อาหารเสริมคอลลาเจนชงดื่ม บริสุทธ์นำเข้าจากเกาหลี!!

สูตรสร้างแบรนด์อาหารเสริมคอลลาเจนชงดื่ม บริสุทธ์นำเข้าจากเกาหลี!! คอลลาเจนเข้มข้นบริสุทธิ์ สารสกัดจากประเทศเกาหลี ดินแดนแห่งประสิทธิภาพด้านความงามและสุขภาพผิว  เพิ่มประสิทธิการฟื้นฟูผิวและรสชาติด้วยวิตามินจากผลเบอรี่ที่ปลูกในฟาร์มธรรมชาติ ที่ได้รับการดูแลกระบวนการผลิตอย่างพิถีพิถัน ทำให้ได้เบอรี้ที่พร้อมในช่วงเวลาที่ดีที่สุด ในการทำสารสกัด เพื่อมาอยู่ในสูตรอาหารเสริมคอลลาเจนนี้นั่นเอง จุดเด่นของสูตรสร้างแบรนด์คอลลาเจนชมดื่ม รสเบอรี่ ใช้สารสกัดคอลลาเจนนำเข้า 100% จากประเทศเกาหลี ที่ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพ ใช้เบอรี่สกัดเข้มข้นให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด และ ประสิทธิภาพสูงสุด มีส่วนช่วยในการบำรุงและฟื้นฟูคอลลาเจนในร่างกาย สุขภาพผิวดี สดใส ดูอ่อนเยาว์ มีประโยชน์ต่อระบบเขา ข้อ ในกลุ่มของ วัยทำงานและผู้สูงอายุ มีสารสกัดในการดูแลสุขภาพ ต่อต้านอนุมูลอิสระ   อยากทดลองสินค้า หรือต้องการพัฒนาสูตรเพื่อสร้างแบรนด์อาหารเสริม สามารถทักมาคุยกับแอดมินได้เลย โรงงานอาหารเสริม เซน ไบโอเทค ไม่หยุดที่จะพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และความเชื่อมั่น ให้กับลูกค้าที่ได้มอบความไว้วางใจให้กับเรา เซน ไบโอเทค จะไม่หยุดพัฒนา พร้อมกับรังสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ทุกท่าน ติดตามนวัตกรรมใหม่ๆ ต่อได้ที่นี่

พรีไบโอติก (Prebiotics) กับโพรไบโอติก (Probiotics) แตกต่างกันอย่างไร

พรีไบโอติก (Prebiotics) กับโพรไบโอติก (Probiotics) แตกต่างกันอย่างไร พรีไบโอติก คืออะไร พรีไบโอติก (Prebiotics) คือ พรีไบโอติกช่วยให้แบคทีเรียชนิดดีในลำไส้เจริญเติบโต เมื่อลำไส้มีปริมาณของแบคทีเรียชนิดดีมากขึ้นจะทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้นด้วย โพรไบโอติก คืออะไร โพรไบโอติก (Probiotics) เป็นจุลินทรีย์ที่มีชีวิตและเป็นชนิดดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยในการทำงานของระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย ช่วยในการย่อยพรีไบโอติกเพื่อกระตุ้นการทำงานของแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ และช่วยให้แบคทีเรียดีในลำไส้เจริญเติบโต พรีไบโอติก กับ โพรไบโอติก ต่างกันอย่างไร ทั้งพรีไบโอติกและโพรไบโอติกนั้นเป็นสิ่งที่ทำงานสัมพันธ์กัน และให้ประโยชน์ต่อร่างกายในเรื่องของระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายเหมือนกัน แต่จะมีความแตกต่างกันตรงที่พรีไบโอติกนั้นเป็นสารอาหารที่ได้จากการรับประทานอาหารและอาหารเสริม  ในขณะที่โพรไบโอติกจะเป็นจุลินทรีย์ที่มีชีวิตและมีประโยชน์ต่อร่างกายซึ่งสามารถพบได้จากการรับประทานอาหารและอาหารเสริมเช่นเดียวกับโพรไบโอติก นอกจากนี้พรีไบโอติกยังไม่สามารถถูกย่อยที่ลำไส้เล็กได้ จำเป็นต้องอาศัยโพรไบโอติกหรือจุลินทรีย์ที่ดีมาทำการย่อยเพื่อเป็นอาหารให้แบคทีเรียที่ดีในลำไส้ ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ร่างกายไม่ควรขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ว่าจะเป็นพรีไบโอติกหรือโพรไบโอติก เพราะทั้งสองสิ่งนี้ทำงานเกื้อกูลซึ่งกันและกัน และให้ประโยชน์ต่อร่างกายเช่นเดียวกัน   อยากทดลองสินค้า หรือต้องการพัฒนาสูตรเพื่อสร้างแบรนด์อาหารเสริม สามารถทักมาคุยกับแอดมินได้เลย โรงงานอาหารเสริม เซน ไบโอเทค ไม่หยุดที่จะพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และความเชื่อมั่น ให้กับลูกค้าที่ได้มอบความไว้วางใจให้กับเรา เซน ไบโอเทค จะไม่หยุดพัฒนา พร้อมกับรังสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ทุกท่าน ติดตามนวัตกรรมใหม่ๆ ต่อได้ที่นี่

สูตรสร้างแบรนด์โกโก้ คุมหิว ควบคุมน้ำหนัก Cocoa X2Burn

สูตรสร้างแบรนด์โกโก้ คุมหิว ควบคุมน้ำหนัก Cocoa X2Burn ถ้าพูดถึงเครื่องดื่มลดน้ำหนักคงหนีไม่พ้น โกโก้คุมหิว ที่กำลังเป็นกระแส ณ ยุคปัจจุบัน แต่จะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถทำโกโก้ที่สามารถคุมหิวและเบิร์นได้มากกว่าเดิมถึง 2 เท่า จุดเด่นของสูตรสร้างแบรนด์โกโก้ คุมหิว Cocao X2Burn 1.สารสกัดและผลของโกโก้ที่นำเข้าจากต่างประเทศ 2.ได้รสชาติเข้มข้น จากแหล่งต้นกำเนิดโกโก้แท้ๆ 3.ปรับแต่งรสชาติ สีสัน ให้ตรงตามความต้องการของเจ้าของแบรนด์ 4.เถียงตรงเรื่องรสชาติ สีสัน ด้วยสเกลการเปรียบเทียบสีที่เป็นมาตรฐาน 5.ละลายง่าย ละลายเร็ว รสชาตินิ่ง อร่อยทานง่าย เหมาะสำหรับทุกวัย 6.ใช้สารสกัดที่เพิ่มประสิทธิการเผาผลาญไขมันและพลังงานจากคาร์ป ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 7.ปรับแต่ง กระตุ้นระบบการเผาผลาญ เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ เพิ่มการเผาผลาญ 8.ได้รับวิตามินจากสารสกัดพรีเมียมจากธรรมชาติ   อยากทดลองสินค้า หรือต้องการพัฒนาสูตรเพื่อสร้างแบรนด์อาหารเสริม สามารถทักมาคุยกับแอดมินได้เลย โรงงานอาหารเสริม เซน ไบโอเทค ไม่หยุดที่จะพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และความเชื่อมั่น ให้กับลูกค้าที่ได้มอบความไว้วางใจให้กับเรา เซน ไบโอเทค จะไม่หยุดพัฒนา พร้อมกับรังสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ทุกท่าน ติดตามนวัตกรรมใหม่ๆ ต่อได้ที่นี่

ทำไมคนไทยถึงแพ้นมวัว?

ทำไมคนไทยถึงแพ้นมวัว? คงจะมีผู้ที่ประสบปัญหาท้องเสียหลังจากดื่มนมวัวไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะยังมีคนเอเชียอีกจำนวนมากที่ประสบปัญหานี้เช่นกัน ทำให้รู้สึกไม่กล้าดื่มนมวัวอีกต่อไป ส่งผลให้ร่างกายได้รับแคลเซียมในปริมาณที่น้อยกว่าความต้องการของร่างกาย แล้วสาเหตุมันเกิดจากอะไรกันแน่ มาอ่านไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ   ก่อนอื่นเพื่อน ๆ รู้จัก “เอนไซม์แลคเตส” กันไหมคะ? เอนไซม์ตัวนี้มีหน้าที่ย่อยโมเลกุลขนาดใหญ่ให้เล็กลงเพื่อให้ร่างกายนำไปใช้งาน ซึ่ง “น้ำตาลแลคโตส” ในนมวัวก็จัดอยู่ในโมเลกุลขนาดใหญ่ ดังนั้นเอนไซม์แลคเตสจึงมีหน้าที่ในการย่อยน้ำตาลแลคโตสให้กลายเป็นน้ำตาลกลูโคสและกาแลกโตสเพื่อให้ร่างกายนำไปใช้ประโยชน์   เมื่อร่างกายไม่ได้ย่อยน้ำตาลแลคโตสเป็นเวลานานๆ ความสามารถในการผลิตเอนไซม์แลคเตสก็จะค่อยๆ หายไป จนในที่สุดเมื่อมีการกระตุ้นอีกครั้ง ร่างกายจึงทำปฏิกริยาต่อต้าน เช่น ปวดท้องหรือท้องเสียหลังดื่มนม   เมื่อเอนไซม์แลคเตสไม่สามารถย่อยน้ำตาลแลคโตส จึงเกิดการหมักและกลายสภาพเป็นแก๊สต่างๆ เช่น ก๊าซไฮโดรเจน คาร์บอนไดออกไซด์และมีเทน ซึ่งก๊าซเหล่านี้จะทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องเสียหลังดื่มนมนั่นเอง แล้วแบบนี้ถ้าอยากดื่มนมวัว จะทำอย่างไรได้บ้างล่ะ? เริ่มดื่มนมในปริมาณน้อยๆ และค่อยๆเพิ่มปริมาณขึ้น ไม่ควรดื่มนมขณะท้องว่าง โดยอาจจะดื่มหลังมื้ออาหาร หรือทานอาหารอื่นๆ ร่วมกับการดื่มนม ถ้าไม่มีอาการท้องเสีย แสดงว่าร่างกายสามารถย่อยนมได้แล้ว ให้เพิ่มปริมาณโดยยังต้องดื่มหลังมื้ออาหารไปก่อน ถ้าเพิ่มปริมาณแล้วร่างกายรับได้ จึงค่อยดื่มนมเมื่อท้องว่าง อยากทดลองสินค้า หรือต้องการพัฒนาสูตรเพื่อสร้างแบรนด์อาหารเสริม สามารถทักมาคุยกับแอดมินได้เลย โรงงานอาหารเสริม เซน ไบโอเทค ไม่หยุดที่จะพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และความเชื่อมั่น ทำไมคนไทยถึงแพ้นมวัว?

สร้างจุดแตกต่างแบรนด์อาหารเสริมด้วย P-cap Vitamin Booster++

สร้างจุดแตกต่างแบรนด์อาหารเสริมด้วย P-cap Vitamin Booster++ P-cap คืออะไร P-cap หรือ Pellet Capsule คือ รูปแบบอาหารเสริมชนิดแคปซูลที่สร้างจุดเด่นและความเป็นพรีเมี่ยมของอาหารเสริมของเรา โดยจะมีลักษณะแคปซูลใส ที่สามารถมองเห็นสารสกัดที่บรรจุในแคปซูลนั้นได้ ซึ่งสารสกัดที่อยู่ใน P-cap จะได้รับนวัตกรรมอาหารเสริมที่เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมในลักษณะเม็ดกลมขนาดเล็ก ที่ทำให้ดูดซึมได้อย่างรวดเร็วกว่าปกติถึง 10 เท่าอีกด้วย สารสกัดที่น่าสนใจในสูตรสร้างแบรนด์สำหรับ Vitamin Booster++ Coenzyme Q10 รูปแบบน้ำมัน ที่สามารถดูดซึมและออกฤทธิ์ได้มันที เปปไทด์โปรตีนพืช ที่ช่วยเพิ่มคอลลาเจน และโปรตีนให้กับร่างกาย สารสกัดเห็ดหูหนูขาว ที่ช่วยเพิ่มไฮยารูลอนที่เป็นโครงสร้างผิว ช่วยใฟ้ผิวชุ่มชื้นยืดหยุ่น สารสกัดธรรมชาติวิตามินเข้มข้น 5 ชนิด ที่ได้รับรางวัลและพิสูจน์ประสิทธิภาพ เฉพาะภายใน Zen biotech     อยากทดลองสินค้า หรือต้องการพัฒนาสูตรเพื่อสร้างแบรนด์อาหารเสริม สามารถทักมาคุยกับแอดมินได้เลย โรงงานอาหารเสริม เซน ไบโอเทค ไม่หยุดที่จะพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และความเชื่อมั่น ให้กับลูกค้าที่ได้มอบความไว้วางใจให้กับเรา เซน ไบโอเทค จะไม่หยุดพัฒนา พร้อมกับรังสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ทุกท่าน ติดตามนวัตกรรมใหม่ๆ ต่อได้ที่นี่

สิ่งที่มือใหม่ควรรู้!! จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเวทเทรนนิ่งแบบต่อเนื่อง

สิ่งที่มือใหม่ควรรู้!! จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเวทเทรนนิ่งแบบต่อเนื่อง เวทเทรนนิ่ง คือ หนึ่งในการออกกำลังกายโดยการใช้แรงต้าน (Resistance Exercise) ซึ่งแรงต้านนี้อาจมาจากทั้งน้ำหนักตัว (Bodyweight) หรืออุปกรณ์ออกกำลังกายต่าง ๆ เช่น ดัมเบล แคทเทิลเบล บาร์เบล ยางยืดออกกำลังกายหรือแมชชีนเทรนนิ่งต่าง ๆ  ข้อดีของการเวทเทรนนิ่งอย่างต่อเนื่อง 1.ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ เพิ่มระบบเผาผลาญ เวทเทรนนิ่งคือการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อให้กับร่างกาย ซึ่งเวทเทรนนิ่งจะช่วยให้ร่างกายได้บริหารกล้ามเนื้อทุกส่วน ซึ่งมีผลจากงานวิจัยได้เผยว่า การมีมวลกล้ามเนื้อเยอะขึ้นก็จะเหมือนกับร่างกายมีเตาเผาผลาญไขมันที่ใหญ่ เผาผลาญได้เยอะขึ้น โดยกล้ามเนื้อ 450 กรัมสามารถเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้ถึง 75-150 แคลอรีเลยทีเดียว 2.ช่วยให้กระดูกแข็งแรง คนเราเมื่ออายุเยอะขึ้นร่างกายจะสะสมแคลเซียมได้น้อยลง ทำให้สุขภาพกระดูกเสื่อมไปเรื่อย ๆ จนทำให้เกิดโรคกระดูกต่าง ๆ เช่น กระดุกพรุน แต่ถ้าคุณเวทเทรนนิ่งเป็นประจำ ร่างกายจะมีการสร้างมวลกระดูกขึ้น ทำให้มีความแข็งแรง ทนทาน การทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตจะคล่องตัว มีความสมดุล 3.ท่าทางและบุคลิกดีขึ้น เวทเทรนนิ่งเป็นการออกกำลังกายที่ต้องอาศัยหลักการโฟกัสหลายจุดเพื่อการยกที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นด้านการหายใจ, ฟอร์มที่ถูกต้อง, การยกเวทด้วยแรงต้านขณะขึ้น-ลง และอีกมากมาย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้บุคลิกภาพต่าง ๆ ของร่างกายนั้นดียิ่งขึ้น สิ่งที่มือใหม่ควรรู้!! จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเวทเทรนนิ่งแบบต่อเนื่อง